สำคัญยังไง 9+1 วันปิยมหาราชที่คนไทยยังไม่รู้
เวียนมาถึงวันสำคัญอีกวันสำหรับวันที่ 23 ตุลาคมของทุกปี หรือ ‘วันปิยมหาราช’ ที่นอกจากจะเป็นวันหยุดแล้ว ใครรู้บ้างว่ามีความสำคัญอย่างไร ซึ่งวันนี้ไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปทำความรู้จักวันสำคัญของ วันปิยมหาราชให้มากขึ้น ดูซิว่าเรารู้แล้วกี่ข้อ แล้วที่ยังไม่รู้มีอะไรบ้าง ไปอ่านกันเลย
1. 23 ตุลาคม ของทุกปีคือ “วันปิยมหาราช” เป็นวันที่ระลึกสำคัญของชาติ และกำหนดให้เป็นวันหยุดราชการของชาวไทย
2. วันปิยมหาราช ภาษาอังกฤษคือ Chulalongkorn Day
3. วันปิยมหาราช คือ วันที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต เมื่อ พ.ศ. 2453 วันปิยมหาราชจึงตั้งขึ้นเพื่อระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
4. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี
5. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ได้รับการถวายพระราชสมัญญานามว่า “สมเด็จพระปิยมหาราช” ซึ่งมีความหมายว่า “พระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชน” เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นที่รักของพสกนิกรทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
6. พระราชกรณียกิจอันสำคัญยิ่ง ที่ทำให้พระองค์ทรงได้รับพระราชสมัญญานามว่า “สมเด็จพระปิยมหาราช” ก็คือ “การเลิกทาส สมัยรัชกาลที่ 5 ประเทศไทยมีทาสในแผ่นดินเป็นจำนวนมาก ลูกทาสในเรือนเบี้ยจะสืบต่อการเป็นทาสไปจนรุ่นลูกรุ่นหลานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าไม่มีเงินมาไถ่ตัวเองก็จะต้องเป็นทาสไปตลอดชีวิต “สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” ทรงต้องการให้ปัญหาเรื่องทาสหมดไป แม้จะเป็นเรื่องยากลำบาก เพราะทาสมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ
7. ในเวลาเพียง 30 ปีเศษ ทาสในเมืองไทยก็หมดไปโดยไม่เกิดการนองเลือดเหมือนกับประเทศอื่นๆ ด้วยพระปรีชาสามารถของ “สมเด็จพระปิยมหาราช”
8. ในวันที่ 23 ตุลาคม วันปิยมหาราช พสกนิกรชาวไทยพร้อมใจกันไปถวายบังคมพระบรมรูปทรงม้าที่พระลานหน้าพระราชวังดุสิต วางพวงมาลาเพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
9. เครื่องที่ควรนำมาสักการะคือ ดอกกุหลาบสีชมพู เพราะดอกกุหลาบนั้นมีทั้งหนามที่แหลมคมและความงดงาม เปรียบดังพระองค์ท่าน ที่พระองค์มีพระปรีชาสามารถและอำนาจในการปกครองประเทศเปรียบกับความแหลมคมของหนาม แต่ยังมีความเมตตากรุณายิ่งอันเป็นความงดงามแก่แผ่นดินไทยควบคู่ด้วยเสมอ
และสีชมพูนั้นหมายถึง สีของวันอังคารอันเป็นวันพระราชสมภพของพระองค์ นอกจากดอกกุหลาบสีชมพูแล้ว ที่นิยมนำมาสักการบูชายังได้แก่ บายศรี หมากพลู บุหรี่(ซิการ์) สุรา บรั่นดี หรือ ไวน์ เป็นสิ่งที่พระองค์โปรดปรานมาก และนอกจากสิ่งของที่นำมาสักการะแก่พระองค์แล้ว ที่นิยมอีกคือ หญ้าสดใหม่ ที่นำมาถวายแก่ ม้าพระที่นั่งอีกด้วย แต่เดี๋ยวก่อน ข้อห้ามที่ควรรู้อีกสักนิด ในวันพระห้ามถวายเครื่องสักการะเป็นอบายมุข
10. คาถาบูชาองค์สมเด็จพระปิยมหาราช
แบบย่อ : “พระสะยามะมินโท วะโร อิติ พุทธะสังมิ อิติ อะระหัง สะหัสสะกายัง วะรัง พุทโธ นะโม พุทธายะ”
แบบเต็ม : “นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)
อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ อิเมนา พุทธะตังโสอิ อิโสตัง พุทธะปิติอิ พระสะยามะมินโท วะโร อิติ พุทธะสังมิ อิติ อะระหัง สะหัสสะกายัง วะรัง พุทโธ นะโม พุทธายะ มาสีสะมานัง” (ปิยะมะนะ นะโมพุทธายะ 3 จบ) ขอพรตามที่ปรารถนา ห้ามบนเด็ดขาด.
ขอบคุณข้อมูล https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1102124